ก้อยปลาใส่มดแดง

ออกเดินทางหาปลา

ได้มาหลายตัวเหมือนกัน...ก้อยดิบสดๆ..แบบนี้แซบดี

หามดแดงใส่่ก่อน..เด้ออ้าย

เข้าตำราสูตรชาวบ้าน

คั่นเอาน้ำออกก่อน....เดี๋ยวมันส้ม

นี่แล่ะพอดี ... พร้อมหาแนวมาใส่ตั๊วบานนี้

เครื่องปรุงที่หาได้ ...อย่าลืมข้าวขั่วเด้อ

เทหอม พริกผง น้ำปลา ชูรสลง ... วนๆๆๆๆหลายรอบคือกัน

พร้อมรับประทาน

ก้อยกุ้ง

ก้อยเป็นอาหารชนิดหนึ่งคล้ายพล่า เป็นอาหารของคนภาคกลางและภาคอีสาน ปรุงจากเนื้อสดดิบที่คั้นด้วยน้ำมะนาว หรือ น้ำมะขามเปียก จนเนื้อเปลี่ยนสีแล้วปรุงรส เนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาปรุงเป็นก้อย ได้แก่ เนื้อวัว ไก่ ปลา และ กุ้ง วันนี้เราลองมาทำก้อยกุ้งกัน

ที่มาก่อนเอามาก้อย

ผักทีนิยมปรุงและกินกับก้อยกุ้ง

     

          

สูตรก้อยกุ้ง

มื่อนี่สิกินแนวอยากที่สุดก่อน..คือป่นกุ้ง หรือ ก้อยกุ้ง...เมนูนี่บ่ผ่านไฟครับ
กุ้งฝอยที่คุณยายเพิ่นนำมาจากบ้าน ยังสดๆใหม่ๆยุ เอามาล้างๆๆๆให้สะอาด.กะจัดการเลย ขั้นตอนกะบ่ยากครับ...ตำพริกพอแหลกจักนอยกะเอากุ้งลงใส่่ครก..ใส่น้ำปลา..น้ำปลาแดก..ผงชูรส..ข้าวคั่ว..ใบผักแพว..ต้นหอมซอย..ใบหอมเป..บักกอกจัก 2 หน่วย..ตำให้เข้ากัน บ่ต้องตำให้กุ้งแหลก..ชิมเบิ่ง..ถ้าพอดีแล้วกะฟ่าวตักใส่จาน...
..ลงมือให้ยายชิมเองเลย..เพิ่นเดินทางมาเมื่อยๆสิใช้กะย่านบาป..หน้าตาออกมาดีเติบ..แซบคือเก่า

                                                   

ชุบขนุน

ต้นนี่ดกหลาย

กำลังสุก

พร้อมเสริม

เครื่องปรุง

๑.ขนุนอ่อน

๒.พริกสด

๓.หัวหอมแดง กระเทียม

๔.งาขาวคั่ว

๕.ต้นหอม ผักชี ใบสาระแหน่

๖.ใบผักแพรว ถ้ามีไม่มีไม่ใส่ก็ได้

๗.น้ำปลาร้าต้มสุก

๘.ปลาทู ปลาดุกปิ้งก็ได้

๙.น้ำปลา

๑๐.ผงนัว ชูรสนั้นเอง

วิธีทำ

๑.ล้างขนุนให้สะอาดแล้วเอาไปต้ม จนขนุนนิ่มแล้วเอาออกจากหม้อใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ

๒.คั่วงาขาวเตรียมไว้ ซอยต้นหอม ผักชี เด็ดใบสาระแหน่ และใบผักแพรวเตรียมไว้

๓.แล้วก็คั่วพริก หัวหอมแดง กระเทียม

๔.ทอดปลาทูหรือจะปิ้งก็ได้

๕.ตำส่วนผสมข้อ ๓ จนละเอียด ตามด้วย ปลาทู 

๖.ปลาละเอียดแล้วก็เอาขนุนไปตำให้ละเอียด

๗.ปรุงด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้าต้มสุก ชูรส หรือปรุงรสตามใจชอบ

๘.หลังจากนั้นก็ใส่งาคั่วขาวคลุกลงไป โรยด้วยต้นหอม ผักชี ใบสาระแหน่ ใบผักแพรว

คนอีสาน  บ้านเดียวกัน 

             

ใขเป็ด

ใข่ในป่า ไปนำเก็บเอา

  

แต่มีวิธีช่วยนะครับ เราต้องค้นหารังไข่ที่ซ่อนตัวในพงหญ้าให้เจอ เลือกเอาไข่ใหม่ๆไปให้แม่ไก่ช่วยฟัก หรือไม่ก็เอาเข้าเครื่องฟัก ตอนเป็นลูกเจี๊ยบต้องอนุบาลดูแลหน่อย แต่โตแล้วสบาย   

ถ้าเราเลี้ยงไก่ต๊อก100ตัว แต่ละปีจะมีไข่ประมาณ 2,000 ฟอง

เฉลี่ยตลอดปี มีไข่กินทุกวันๆละ4-6 ฟอง

ไข่แดงใหญ่ รสมันกว่าไข่ทั่วไป

 ต้มไว้ชิมไปเรื่อยๆ

คนอีสาน   บ้านเดียวกัน

ล่าหนู

 

หนูท้องขาว

หนูนา 

แต่เมนูนี้ คือ “ หนูดาวดึงส์ “  เป็นสุดยอดอาหารของภาคอีสานในหน้าหนาว หนึ่งปีมีกินแค่ช่วงฤดูกาลเดียว
หนูท้องขาว
มีลักษณะแตกต่างจากหนูปกติ เพราะหนูท้องขาวคือพญาหนู   
การเป็นอยู่ หนูท้องขาว ไม่ขุดรูอยู่อย่างหนูทั่วไป  หนูท้องขาวทำรังบนต้นไม้ เหมือนนก ออกลูกบนนั้น นอนในนั้น
จึงนับว่าเป็นหนูที่รักสะอาด รักษาสุขภาพ  ในหน้าหนาวนั้น หนูท้องขาว ลืมความสกปรกไปเลยครับ สำหรับหนูชนิดนี้ 


ภาพรังของ หนูท้องขาว 


 ภูมิปัญญา ชาวบ้าน

หน่วยตระเวน
มักเดินนำหน้าเราไป สะเปะสะปะ  จนทำให้หนู ได้กลิ่น กลัวหมาวิ่งขึ้นต้นไม้ ไม่มากินเหยื่อ
หรือบางที ก็เห่าใบตองแห้ง ให้เรา พะวงหน้าพะวงหลัง อย่างนี้เขาเรียก  “ สุนัข “

ภาพ หมาบักดำ   อีสาน 100 %

4 การไป “ย๋ามหน่วง” ( ไปดูกับดักที่เราวางไว้ )
ออกไปตอน สามทุ่ม ถึง 4 ทุ่ม  เท่านั้น   เพราะหนูท้องขาว มักกินเหยื่อช่วงนี้  และกินอีกที ช่วงใกล้รุ่ง

5. เมื่อได้หนูท้องขาวมาแล้ว  คัดเอาแต่ตัวผู้   ส่วนตัวเมียเอาไปทำอาหารอย่างอื่น  เพราะตัวเมียไม่มีไข่  ที่เอาแต่ตัวผู้ 


นำเอากระเทียมโทน ศรีษะเกษ มาทุบๆ และ หมักเอาไว้ก่อน ที่เลือก กระเทียมโทน  
เพราะขึ้นชื่อเรื่องกระเทียมในภาคภาคอีสาน  เป็นกระเทียม ส่งออกนอก
- จากนั้นทาให้ทั่วด้วย เกลือสินเธาว์    เกลือสินเธาว์คือเกลือ บริสุทธิ์ สะอาด


โอ้ เขียนมาซะยืดยาว  ได้เวลา  รับประทาน เมนู สุดยอดอาหาร ของ ชาวอีสาน ชนิดหนึ่งได้แล้ว
เมื่อสุขได้ที่ จะมีกลิ่นหอมของเนื้อ นำมันหนู  กระเทียมโทน และ กลิ่นไหม้ของไม้หีบ  

วันหน้าจะหาเมนูใหม่...มาเล่าสู่กันฟัง เด้อ

คนอีสาน  บ้านเดียวกัน